พริกน้ำเงี้ยวสันมะนะ (ผัดแห้งพร้อมผสมเครื่องเทศสำเร็จ)เนื้อสัมผัสไม่เยิ้มมัน และยังใช้ทำ น้ำพริกอ่อง อีกเช่นกัน

ขนาด500กรัม/ถุง
ก่อนอื่นเลย ต้องขอขอบคุณที่สนใจน้ำพริกจากทางเรานะครับ


➡️➡️➡️แนบวิธีทำให้ด้วยสำหรับมือใหม่ทุกท่าน
น้ำพริกน้ำเงี้ยว น้ำพริกอ่อง 🍲น้ำพริกน้ำเงี้ยวน้ำพริกอ่องชนิดผัดสำเร็จ ส่งตรงจากเชียงราย🍲
❓❓ทำไมต้องเป็นแบบผัดสำเร็จ นั้นก็เพราะว่า ลูกค้าแต่ละคน เวลาผัดน้ำพริกเพื่อทำน้ำพริกอ่องทำน้ำเงี้ยวนั้น แต่ละคนจะผัดให้ได้ความสุกของตัวน้ำพริกไม่เท่ากัน ทำให้บางคนอาจจะดึงศักยภาพความหอมของตัวน้ำพริกที่ทางร้านได้ทำไว้ ได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้ ทางร้านทราบดีว่า ควรใช้ความร้อนและเวลา ให้ได้ประมาณไหน ซึ่งจะทำให้มั
นหอมที่สุด การผัดน้อยไปจะทำให้น้ำพริกหอมไม่มาก การผัดมากไปก็อาจจะทำให้ไหม้แล้วก็ขมในที่สุด ทุกอย่างจึงอยู่ในความพอดี ไม่ต้องแฉะน้ำ ไม่ต้องมีน้ำมันเยิ้ม รับรองน้ำพริกที่ได้ไปถุงห่อหอมทะลุแน่นอนครับ
❄️❄️❄️ ควรเก็บไว้ในตู้เย็น


❌❌❌❌สำหรับใครที่อยากรู้จักเพิ่มเติม❌❌❌
ก่อนอื่นเลยต้องขอย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วประมาณปี พ.ศ.2541 ณ ที่หมู่บ้านสันมะนะ ต.ป่าอ้อดอนชัย จังหวัดเชียงราย ได้มีการรวมตัวของผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งเพื่อทำกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขึ้นมา กลุ่มนั้นได้ชื่อว่า “กลุ่มน้ำพริกเพื่อสุขภาพบ้านสันมะนะ” เกิดการผลิตน้ำพริก 3 ชนิดขึ้นคือ น้ำพริกน้ำเงี้ยว น้ำพริกแกงและพริกลาบขึ้นมา โดยสูตรก็มาจากผู้สูงอายุในกลุ่ม เป็นสูตรของตนเองบ้าง สูตรที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นมาถ่ายทอดบ้าง และได้จัดจำหน่ายเรื่อยมา ณ ปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 22 ปีมาแล้ว ได้มีผลงานเป็นที่ยอมรับมากมาย เช่นได้รับคัดเลือกเป็น สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และน้ำพริกน้ำเงี้ยวน้ำพริกอ่อง ก็ได้รับเลือกเป็นสินค้า หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ประเภท 5 ดาว ในปีพ.ศ.2556 รวมถึงได้รับ การการันตรี จากองค์การอาหารและยา (อย.) ในเวลาต่อมา

🌶️ น้ำพริกน้ำเงี้ยว น้ำพริกอ่อง เหตุที่ต้องชื่อแบบนี้ก็เพราะว่า หลักๆเลยมันสามารถใช้ทำได้ทั้ง น้ำเงี้ยว และน้ำพริกอ่อง ผมจะขออนุญาตเรียกเป็นชื่อเดียวว่าน้ำพริกน้ำเงี้ยว ละกันนะครับ น้ำพริกน้ำเงี้ยวที่จัดจำหน่อยกันตามท้องตลาดทั่วๆไปจะมี 2 แบบ ก็คือแบบผัดสำเร็จ และแบบที่ยังไม่ผัด ส่วนของทางร้านจะเป็นแบบผัดสำเร็จอย่างเดียว ไม่มีแบบไม่ผัดนะครับ ถามว่าทำไมต้องเป็นแบบผัดสำเร็จให้ นั้นก็เพราะว่าลูกค้าแต่ละคนเวลาผัดน้ำพริกเพื่อทำน้ำพริกอ่อง ทำน้ำเงี้ยว ผัดแล้วได้ความสุกของตัวน้ำพริกไม่เท่ากัน ทำให้บางคนอาจจะดึงศักยภาพความหอมของตัวน้ำพริกที่ทางร้านได้ทำไว้ ได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้ ด้วยประสบการณ์การทำน้ำพริกและจากสูตรที่ผู้สูงอายุแนะนำ จึงรู้ว่าควรผัดตัวน้ำพริกให้ได้ประมาณไหน จะทำให้มันหอมที่สุด การผัดน้อยไปจะทำให้น้ำพริกหอมไม่มาก การผัดมากไปก็อาจจะทำให้ไหม้แล้วก็ขมในที่สุด
การผัดน้ำพริกของทางร้านเมื่อผัดเสร็จแล้วจะได้น้ำพริกที่มีลักษณ์ออกผงๆ แห้งๆ มีความมันในตัว แต่ไม่มีน้ำมันเยิ้ม ไม่มีการแฉะน้ำในถุง ซึ่งลูกค้าสามารถดูจากรูปได้ เพราะจะบรรจุในถุงใส เพียงแค่เนื้อสัมผัสตรงนี้ก็ทำให้น้ำพริกของทางร้านนั้นพิเศษกว่าที่อื่นๆในประเทศแน่นอน การที่ทางร้านผัดให้จึงเพิ่มความสะดวกสบายในการประกอบอาหารของลูกค้าทุกๆคน

ความพิเศษของน้ำพริกถุงนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ “ถั่วเน่า” ถั่วเน่าเป็นการถนอมอาหารของคนภาคเหนืออย่างหนึ่งคือการนำถั่วเหลืองมาหมักในวิธีเฉพาะของมัน โดยน้ำพริกน้ำเงี้ยวของทางร้านจะมีส่วนผสมของถั่วเน่าลงไปด้วย เวลาลูกค้านำไปทำอาหารก็ไม่จำเป็นต้องใส่ถั่วเน่าลงไปแล้ว นอกเสียจากว่าท่านจะชอบกินถั่วเน่าจึงใส่เพิ่มไป ตัวถั่วเน่าเนี่ย มันจะทำให้น้ำพริกน้ำเงี้ยวนั้นมีกลิ่นหอมที่เฉพาะตัว โดยถั่วเน่าที่ทางร้านใช้ทำ จำเป็นถั่วเน่าที่หมักจากถั่วเหลือทั้งหมดเลย 100% ไม่มีอย่างอื่น ซึ่งราคาก็จะสูงกว่าแต่เทียบกับคุณภาพความหอมที่ได้แล้วมันคุ้มค่า โดยทางร้าน จะมีเจ้าประจำที่ทำถั่วเน่าส่งให้แค่ที่ร้านที่เดียวในจังหวัดเชียงราย ต้องสั่งทำเป็นรอบๆไป แม้จะมีร้านที่ทำถั่วเน่ามากมายแต่ต่างแหล่งผลิตก็จะใส่มีสูตรละใช้วัตถุดิบที่ต่างๆกันไป ทำให้น้ำพริกน้ำเงี้ยวของเรานั้นมีความหอมและกลิ่นเฉพาะตัวไม่เหมือนที่อื่นๆเลย

นอกเหนือไปจากถั่วเน่าที่เราผสมลงไปในน้ำพริกแล้ว ก็จะมีวัตถุดิบหลักอย่างอื่นเช่น พริก พริกนี่เป็นตัวสำคัญเลยที่ให้ทั้งความเผ็ดเพราะทุกคนที่กินน้ำพริกก็ต้องแสวงหาความเผ็ดของมันอยู่แล้วใช่ไหมครับ อีกอย่างหนึ่งคือความหอม และน้ำหน้า การเลือกพริกนั้นมีความสำคัญและเป็นพระเอกมากๆ ต้องเลือกพริกที่สามารถแสดงสิ่งที่เราต้องการออกมาได้อย่างพอเหมาะ อันต่อมาก็จะเป็นหอมกับกระเทียบ ตัวหอมกับกระเทียบเนี้ย เวลานำไปผัดแล้วมันจะมีความหอมเฉพาะตัวและที่สำคัญเวลามันถูกความร้อนแล้วมันจะออกรสหวาน ตัวต่อไปจะเป็นตัวให้ความเค็มก็คือ กะปิและเกลือ เวลาถูกความร้อนแล้วมันจะหอมแต่ก็ยังคงความเค็มในตัวมันอยู่ จะเห็นได้ว่าในน้ำพริกน้ำเงี้ยวของเรา ไม่ได้มีแต่ความเผ็ดจากพริก แต่มีรสหวานจากหอมกระเทียบ มีความเค็มจากกะปิ มีรสชาติของถั่วเน่า ผสมอยู่ในอัตราส่วนที่เหมาะสม และสุดท้ายถูกผัดจนหอม มีขึ้นตอบ หยิบย่อยมากมาย พิถีพิถัน กว่าจะได้น้ำพริกที่ออกมาเหมาะ เหมาะสำหรับทำน้ำเงี้ยวและน้ำพริกอ่องเป็นที่สุด
และที่สำคัญในทุกๆขั้นตอนของการผลิตทางร้าน ไม่มีการใส่สารเคมีใดๆลงไปทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสารกันบูด ผงชูรส หรือแม้แต่สารแต่งสีก็ตาม เนื่องจากสูตรการทำน้ำพริกของทางร้านเป็นสูตรแบบโบราณ เมื่อสมัยโบราณไม่ได้ใส่ สมัยปัจจุบันก็ไม่ได้ใส่ เพื่อคงรสชาติ ให้เหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน ทางร้านอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยอนุรักษ์รสชาติเดิมๆไว้ กินเมื่อ 100ปี รสชาติเป็นอย่างไร กินวันนี้รสชาติก็เหมือนเดิม